Saturday, May 30, 2009

ไปฟอกปอดรับลมหนาวที่เขาใหญ่



ไปฟอกปอดรับลมหนาวที่เขาใหญ่

เมื่อลมหนาวมาเยือน มันเหมือนกับการรอคอยของใครบางคนสิ้นสุดลงด้วยความสมหวัง ลมหนาวของเมืองไทยมีเสน่ห์ที่สุดกว่าฤดูกาล เพราะเกือบทั้งปีเราต้องทนอยู่กับความร้อนที่แสนทรมาน ซึ่งนับ
วันจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี จะไปโทษธรรมชาติไม่ได้เลย เพราะโลกร้อนและวิบัติเช่นทุกวันนี้เป็นฝีมือ
มนุษย์เองแท้ๆ มนุษย์อย่างพวกเราคือตัวเชื้อโรคที่แท้จริง ไปอยู่ที่ไหนก็สร้างความวิบัติให้ที่นั่น เพราะ
ความเห็นแก่ตัว ทำทุกอย่างที่ให้ตัวเองมีความสุขสนานเพียงชั่วครู ชั่วยาม ในขณะเดียวกันก็ทำร้าย
ทำลายธรรมชาติไปด้วย เพียงไม่กี่ชั่วอายุคน ผลร้ายมันก็ตามมาสนองความมักง่ายและความเห็นแก
่ตัวที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง ฉันเคยเดินทางขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ป่าผืนใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ทุกครั้งที่ขึ้นมาเยือนเขาใหญ่ ก็นึกชื่นชมสิ่งผู้เกี่ยวข้องเขาต่อสู้ ปกป้องและอนุรักษ์ป่าผืนนี้เอา
ไว้ได้ดีพอสมควร จนบัดนี้เขาใหญ่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้ว

เขาใหญ่ไม่มีหน้าร้อน ไม่ว่าบนพื้นราบจะร้อนอบอ้าวเพียงใหญ่ เมื่อคุณเดินทางขึ้นที่เขาใหญ่อากาศเย็นและความชุ่มชื้นจากพืชพันธุ์ไม้ป่าของเขาใหญ่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เดินทางออกไปยังที่ ที่ไม

่เหมือนประเทศไทยที่มีฤดูร้อนอันแสนหฤโหด ในช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคม เขาใหญ่จะได้รับ
อิทธิพลจากลมทะเลพัดเข้ามาปะทะ เทือกเขานี้ทางด้านทิศใต้แถบจังหวัดปราจีนบุรี เขาใหญ่ฝั่งด้านนี้จึงมีลมเย็นและอุณหภูมิไม่โหดร้าย
นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่ใดที่เป็น “ร่องลม” คุณจะรู้สึกเหมือนที่ตรงนั้นเป็นสวรรค์ทีเดียว

สำหรับหน้าหนาว ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรกันมาก หน้าหนาวบนเขาใหญ่เป็นที่ปรารถนาของทุกคนอากาศหนาวเย็นไม่ต่างจาก
เมืองเหนือที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่เขาใหญ่อยู่ใกล้พอที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึงสิ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคอย่างหนึ่งก็คือ เขาใหญ่ไม่มีที่พักมากที่จะ
รองรับความต้องการของผู้คน แม้จะเป็นที่กางเต้นท์ก็ตาม ห้องน้ำ ห้องอาหารดูคับแคบแออัดจนหลายคนทนไม่ได้ ฉันเคยขึ้นไปเห็นม
ากับตา และเคยพบรถติดบนเขาใหญ่เป็นชั่วโมงอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ ใจหนึ่งก็นึกว่าน่าจะเปิดเขาใหญ่ให้มีบริการอำนวยความสะดวก
ให้นักท่องเที่ยว อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเก็บไว้แบบอนุรักษ์อย่างนี้ดีแล้วขืนปล่อยให้มีโรงแรม รีสอร์ทที่พักกันตามสบาย อีกไม่นาน เขาใหญ่ก็คงวิบัติเหมือนแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทุกแห่งของไทย เพราะคนไทยไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้คุณค่าของการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์เท่าไร ไปที่ไหนก็มักจะพยายาม “เอาให้คุ้ม” นั่นคือล่อกันเสียเละ ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้าย ฉันเห็นการกระทำเหล่าน
ั้นมากับตา คิดแล้วก็เห็นว่าให้เขาเก็บเขาใหญ่ไว้แบบนี้แหละดี ลูกหลานจะได้มีโอกาสเห็นเขาใหญ่อย่างที่คนรุ่นเราได้เห็นในวันนี้ มาเขาใหญ่เที่ยวนี้ฉันพาครอบครัวและกลุ่มเพื่อนผู้รักการเดินทางมาพักที่ “ริมภู การ์เด้น รีสอร์ท” รีสอร์ทใหม่ ออกปากทางขึ้นเขาใหญ่
ด้านจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางจาก กทม.ชั่วโมงเศษเท่านั้น ฉันออกจะแปลกที่เห็นสถานที่แห่งนี้รักษาความเป็นธรรมชาติ สงบเงียบ แล
ะสะอาดสะอ้านมาก ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ชุมชนที่เจริญแล้วของอำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรีเมื่อมีโอกาสคุยกับเจ้าของรีสอร์ทก็พบว่า เขาเป็นนั
กอนุรักษ์ธรรมชาติตัวยง รีสอร์ทตั้งอยู่ในสวนผลไม้ขนาด 70 ไร่ เป็นสวนชีวะภาพ ไม่มีสารเคมี ไม่มียาฆ่าแมลง ไม่มีการยิงนกตกปล
ในพื้นที่รีสอร์ททั้งหมด ตื่นเช้าขึ้นมาฉันจึงได้ยินเสียนกนานาชนิดเซ็งแซ่ไปหมด ตกกลางคืนก็มีแต่หริ่งเรไร เงียบสงบและเป็นธรรมชาต
ิอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้พบบรรยากาศเช่นนี้

อากาศในเดือนหนาว หนาวเย็นสมชื่อจริงๆ พอตกเย็นเขาก่อ กองไฟให้เรากินข้าวเย็น ทำให้บรรยากาศโรแมนติกมีเพลงแจ๊สเก่าๆ ในยุค 50-60 ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสฟังรื่นหู ฉันเดาเอาว่าเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้เขาทำรีสอร์ทตามที่ใจตัวเองชอบ และก็หวังว่าจะมีคนไม่น้อยที่นิยมชมชอบบรรยากาศแบบเดียวกันนี้ อย่างน้อยก็ทำให้ฉันและพรรคพวกทุกคนหลงไหลได้ปลี้มละ เมื่อมีโอกาสคุยกัน เขาเล่าให้ฟังว่า ที่นี่ต้องการความสงบและความเป็นธรรมชาติ ประเภทอึกทึกคงไม่เหมาะเพราะไม่อยากให้รบกวนนก รบกวนจิ้งหรีด และแขกที่ต้องการมาสัมผัสธรรมชาติ ภายในห้องพักทุกห้องเป็นเขตปลอดบุหรี่ พูดง่ายๆ ก็คือห้ามหรือขอร้องไม่ให้สูบบุหรี่ภายในห้องนอนนั่นเอง เรื่องนี้ถูกใจฉันมาก เพราะฉันเป็นคนแพ้บุหรี่ตัวยง เวลาเข้าพักในสถานที่ที่ปล่อยให้มีการสูบบุหรี่ละก็ จะเป็นจะตายให้ได้ทีเดียว ขณะนี้มีคนมาพักที่ ริมภู มากขึ้น ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ทำการเปิดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว คนส่วนใหญ่รู้จักที่นี่เพราะเพื่อนบอก ถ้าคุณจะมาเที่ยวเขาใหญ่และชอบบรรยากาศที่ฉันเล่าให้ฟังนี้ คุณโทรไปจองห้องพักของ “ริมภู การ์เด้น รีสอร์ท” ได้ที่ 01-3066760 หรือ 02-6415333-7 ต่อ 123

เที่ยวนิวซีแลนด์ แบบไม่ง้อทัวร์




เตรียมตัวไปเที่ยวนิวซีแลนด์ แบบไม่ง้อทัวร์ ต้องรู้อะไรบ้างเรื่อง



โดย วโรดม นินมานเหมินท์ เรียบเรียงโดย Kiki จากหนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วท่องนิวซีแลนด์








เลือกฤดูกาลให้เหมาะสมประเทศนิวซีแลนด์มีสภาพอากาศปานกลางไม่หนาวจัดและไม่ร้อนมากนัก อย่างไรก็ตามพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศนิวซีแลนด์อยู่ติดชายฝั่งทะเล จึงมีอากาศอบอุ่น ฝนตกปานกลาง และแสงแดดจ้า โดยฤดูร้อนของที่นี่




(ตั้งแต่ธันวาคม-กุมภาพันธ์) จะเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่อากาศอาจหนาวเย็นลงในช่วงกลางคืน ที่สำคัญค่าที่พักแรมและกิจกรรมต่างๆ จะมีราคาสูงกว่าปกติ เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว แต่ถ้าคุณมาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วง




(ตั้งแต่มีนาคม-พฤษภาคม) จะพบว่าอากาศเริ่มเย็นและมีช่วงเวลากลางวันที่สั้นลง แต่ก็ทดแทนด้วยภาพบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงาม นอกจากนี้ทางตอนใต้ของเกาะใต้อาจพบหิมะตกได้ในช่วงปลายฤดู ส่วนฤดูหนาว




(ตั้งแต่มิถุนายน-สิงหาคม) จะเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นที่สุดและมีฝนตกชุกมากอีกด้วย ซึ่งช่วงนี้จะเหมาะสำหรับการเล่นสกีและการเดินบนธารน้ำแข็งมากที่สุด แต่เนื่องจากพื้นผิวถนนมักเป็นน้ำแข็งและลื่น จึงอาจพบว่าทางหลวงหลายสายโดยเฉพาะสายที่ตัดผ่านภูเขามักจะถูกปิด สำหรับฤดูใบไม้ผลิ




(ตั้งแต่กันยายน-พฤศจิกายน) ถือเป็นช่วงที่เรามีโอกาสเผชิญกับทุกสภาพอากาศ ตั้งแต่หนาวและหนาวจัด (เป็นน้ำแข็ง) ไปจนถึงอบอุ่นและร้อนเลย และความที่เป็นช่วงที่หิมะกำลังเริ่มละลาย จึงทำให้น้ำภายในแม่น้ำต่างๆ สวยใสและมีปริมาณมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำ



สายการบินที่น่าสนใจสำหรับการซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบิน ผมขอแนะนำให้ดูตามเอเยนต์ทัวร์ต่างๆ นั่นละครับ เพราะบางครั้งจะมีแพ็กเกจรวมที่พักและรถเช่าให้ด้วย โดยเมื่อคำนวณราคาดูแล้วอาจถูกกว่าการซื้อแยกตามปกติเสียอีก ส่วนราคาตั๋วโดยสารก็มีตั้งแต่ 25,000-35,000 บาท ทั้งนี้อาจถูกหรือแพงกว่าโดยขึ้นอยู่กับสายการบินและช่วงเวลาที่เดินทางด้วย ซึ่งสายการบินที่คนไทยนิยมเดินทางก็มี



การบินไทย (Thai Airways-www.thaiairways.com) ที่มีให้เลือกทั้งที่บินตรงไปยังเกาะเหนือที่เมืองโอ๊กแลนด์ (นิวซีแลนด์) และไคร์สเชิร์ชทางเกาะใต้ แต่ราคาค่อนข้างแพง



แควนตัส (Qantas-www.qantas.com.au) สายการบินแห่งชาติออสเตรเลีย ที่มีศูนย์กลางสายการบินอยู่ที่เมืองซิดนีย์ สามารถเลือกได้ว่าต้องการบินไปลงที่เกาะเหนือหรือเกาะใต้



สิงคโปร์แอร์ไลน์ส (Singapore Airlines-www.singaporeair.com) ราคาลงมาหน่อย บริการค่อนข้างดี แต่ผู้โดยสารต้องไปแวะต่อเครื่องที่สิงคโปร์ก่อน แล้วจึงบินตรงไปยังนิวซีแลนด์



คาเธย์แปซิฟิกแอร์เวย์ส (Cathay Pacific Airways-www.cathaypacific.com) ราคาค่อนข้างถูกกว่าสองสายการบินที่เสนอไป แต่ต้องบินย้อนไปฮ่องกงก่อน แล้วจึงค่อยบินต่อไปยังโอ๊กแลนด์



การเช่ารถขับเป็นที่นิยมมากในนิวซีแลนด์



จองรถเช่าในการเที่ยวนิวซีแลนด์ให้ทั่วถึงและสนุก ควรเลือกวิธีการขับรถเช่า เพราะหากมีแผนเที่ยวนอกเมืองจะค่อนข้างลำบากและเสียเวลามาก ที่สำคัญด้วยความที่นิวซีแลนด์มีภูมิประเทศและธรรมชาติอันงดงามเป็นทุนเดิม หากขับรถด้วยตนเองจะสามารถจอดชมทิวทัศน์ได้ตามใจชอบ และยังสามารถแชร์ค่าใช้จ่ายกรณีเดินทางกันเป็นกลุ่มได้ด้วย สำหรับการเช่ารถผมแนะนำให้จองจากเมืองไทยไปเลย (ถึงแม้ว่าจะสามารถไปหาเอาข้างหน้าได้ก็ตาม) โดยอันดับแรกเราต้องตัดสินใจเลือกบริษัทและประเภทของรถเช่าให้ได้เสียก่อน (เข้าไปสำรวจราคาและประเภทรถจากหลายๆ แห่งทางเว็บไซต์ แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน) จากนั้นก็วางแผนว่าจะเริ่มใช้รถจากเมืองไหนถึงเมืองไหน และไปสิ้นสุดที่เมืองไหน เมื่อได้บทสรุปทั้งสองส่วนนี้แล้ว ก็เข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัทรถเช่า แล้วทำการจองรถผ่านเว็บเลย ซึ่งจะมีการคำนวณราคาออกมาโดยอัตโนมัติ (ใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าเช่ารถ) ทั้งนี้เวลาเราเช่ารถจะมีการสอบถามถึงเรื่องการทำประกันรถด้วย ผมแนะนำให้ทำไว้ก็ดีครับ เพราะเท่าที่ผมได้ฟังมา บางคนไม่ได้ทำแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก ไม่คุ้มกับค่าประกันที่ต้องเสียเลย



ข้อมูลที่ควรรู้



วีซ่าแต่ก่อนคนไทยที่ไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์ไม่ต้องขอวีซ่าด้วยซ้ำไป ทว่าเพราะวีรกรรมโรบินฮูดเชื้อสายไทยที่คนบางกลุ่มได้ทำไว้ ทำให้ตอนนี้ส่งผลบุญมาถึงนักท่องเที่ยวตาดำๆ รุ่นหลังเต็มๆ ต้องทำวีซ่าเข้าประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งขั้นตอนการยื่นขอวีซ่านั้นไม่ยาก ขอเพียงเตรียมเอกสารให้พร้อมก็พอแล้ว (ดูเอกสารที่ต้องเตรียมได้ที่ www.immigration.govt.nz) ส่วนจุดยื่นเอกสารจะตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ อาคารเอ็มไทย ออลซีซันส์เพลส ชั้น 15 (โทร. 0-2654-3444) โดยจะเปิดทำการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-15.00 น. หลังจากยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียมเป็นที่เรียบร้อย ให้อดใจรอลุ้นประมาณหนึ่งถึงสองสัปดาห์ หากวีซ่าผ่านก็สามารถไปรับได้ด้วยตัวเอง หรือให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ก็ได้



ทำใบขับขี่สากลอย่างที่บอกไปว่าการเช่ารถขับที่นิวซีแลนด์จะทำให้เราไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัวมาก กระนั้นก็ใช่ว่าเราจะไปเช่ารถได้เลยนะครับ เราต้องมีใบขับขี่สากลติดตัวไปด้วย ไม่เช่นนั้นก็เช่ารถขับไม่ได้เช่นกัน ซึ่งการขอใบขับขี่สากลสามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบก (หมอชิต) โดยต้องเตรียมเอกสารนิดหน่อย ได้แก่ สำเนาใบอนุญาตขับรถ (ห้าปีหรือตลอดชีพ), สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาหนังสือเดินทาง, รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 4x6 เซนติเมตร 2 รูป (รูปไม่เคลือบมันและไม่พิมพ์จากคอมพิวเตอร์) และค่าธรรมเนียม เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ





เงินทองต้องรู้




เงินนิวซีแลนด์มีหน่วยหลักเป็นดอลลาร์ (Dollar, $NZ) และหน่วยย่อยเป็นเซนต์ (Cent, cNZ) โดย 100 cNZ เท่ากับ 1 $NZ มีอัตราแลกเปลี่ยนที่ประมาณ 24.5 บาทต่อ 1 $NZ ซึ่งประสบการณ์การเดินทางไปนิวซีแลนด์ของผมนั้น ผมใช้ทั้งเงินสดและเครดิตการ์ดครับ แต่จะเน้นที่เครดิตการ์ดมากกว่า เพราะค่อนข้างสะดวก แถมไม่ต้องพกเงินสดไปเยอะด้วย (หรือจะเลือกใช้วิธีการพกบัตรเอทีเอ็มที่กดต่างแดนไปก็ได้)
โทรศัพท์หากเอาสะดวกสุดและไม่เน้นโทร.มาก แค่รายงานให้ทางบ้านทราบว่ามาถึงนิวซีแลนด์อย่างปลอดภัย ผมแนะนำบัตรโทรศัพท์ Kiwi Card ที่มีขายในเมืองไทยเลยครับ (www.thaitelephone.com) เพราะค่อนข้างราคาถูก ตกนาทีละ 1.13 บาทเท่านั้น โดยราคาบัตรอยู่ที่ 500 บาท และสามารถใช้โทรศัพท์ได้ 20 $NZ



ไฟฟ้านิวซีแลนด์ใช้กระแสไฟฟ้าเหมือนบ้านเรา (230V 50Hz) ปลั๊กเป็นแบบขาเอียงแบบสองขา (สามารถใช้แบบมีสายกราวด์สามขาได้เช่นกัน) ซึ่งหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านขายเครื่องไฟฟ้าทั่วไป


ล่องแก่งหินเพิง...ปราจีนบุรี





ล่องแก่งหินเพิง ใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8 -10 คน ล่องในลำน้ำใสใหญ่ สภาพแก่งน้ำอยู่ในระดับ 3 -5 นักล่องแก่งจะต้องใช้ทักษะและความชำนาญในการพายสูงเมื่อนักท่องเที่ยวติดต่อล่องแก่งกับผู้ประกอบการแล้ว ผู้ประกอบการฯ จะพานักท่องเที่ยว ไปยังบริเวณขญ. 9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 สถานที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.9 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี




ลักษณะของสายน้ำแก่งหินเพิง เป็นแก่งหินตอนปลายสุดของแม่น้ำใสใหญ่ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นชั้นหินทราย ครั้นเมื่อถึงฤดูฝน กระแสน้ำ จะไหลหลากอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดเกาะแก่ง ต่าง ๆ มากมาย แก่งหินเพิงเป็นที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายกับสายน้ำ อันเชี่ยวกราก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม กระแสน้ำบริเวณแก่งหินเพิงจะไหลรุนแรงมาก ความตื่นเต้น ท้าทายการล่องแก่งสายนี้จุดเด่นอยู่ที่ตัวแก่งหินเพิงอันเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง ตัวแก่งหินเพิงมีลักษณะเป็นลานหินหักเท ลื่นลงมาจนเกิดเป็นกระแสน้ำวนและเชี่ยวกราก ต้องใช้ความสามารถและทักษะในการพายเป็นอย่างยิ่ง จากจุดเริ่มต้นเหนือแก่งหินเพิงลงมาจะผ่านแก่งวังบอน บริเวณนี้มีโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่ บีบให้กระแสน้ำเข้าหากัน เป็นรูปตัววี และถ้าผ่านแก่งวังบอนมาได้ กระแสน้ำหลังแก่งวังบอนจะไหลย้อนทิศทางตรงนี้สามารถพักเรือบริเวณนี้ได้ ล่องเรือต่อมาจะพบกับแก่งลูกเสือ ซึ่งมีความสนุกสนานเร้าใจไม่แพ้แก่งหินเพิง และผ่านไปจนถึงแก่งวังไทร และ แก่งงูเห่า ซึ่งเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องแก่ง สายน้ำช่วงนี้แก่งวังไทรจะมีลักษณะเป็นคลื่นใหญ่ม้วนตัวขึ้นเป็นวง สร้างความตื่นเต้น เร้าใจได้พอสมควร

แก่งต่าง ๆ ที่ล่องผ่าน*แก่งหินเพิง เป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง ลักษณะหินของแก่งหินเพิง เป็นแก่งยาวประมาณ 150 เมตร ในช่วงฤดูฝน เป็นสุดยอดของการล่องแก่ง ทริปนี้*แก่งผักหนามล้อม มีลักษณะเป็นวังน้ำขนาดใหญ่กระแสไหลวนไปมา*แก่งวังบอน เป็นแก่งหินสั้น ๆ ยาวประมาณ 30 เมตร กระแสน้ำจะไหล ลาดเอียงลงมาประมาณ 30 องศาผ่านชั้นหินและเกาะต่าง ๆ จากนั้นน้ำจะไหล เอื่อย ๆ ลงมายังแก่งลูกเสือ*แก่งลูกเสือ มีลักษณะเป็นแก่งน้ำเล็ก ๆ มีร่องน้ำสามารถพายเรือยางผ่านไปได้ แต่ต้องระมัดระวังอันตรายจากกิ่งไม้ที่ยื่นออกมา

*แก่งวังไทร มีลักษณะเป็นแก่งหินกว้างประมาณ 50-60 เมตร ยาวประมาณ 150 เมตร ความกว้างของแก่งพอ ๆ กับแก่งลูกเสือ มีความลาดชันประมาณ 30 องศา กระแสน้ำจะไหลผ่านเกาะแก่งต่างๆ แล้วม้วนตัวเป็นวงคลื่น ต้องใช้ทักษะความชำนาญในการพายเรือค่อนข้างสูง*แก่งงูเห่า ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าที่ ขญ.9 ถ้าปริมาณน้ำไม่มากนัก จะแลเห็นเกาะแก่งต่าง ๆ โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน กระแสน้ำจะไหลท่วมเกาะแก่งต่าง ๆ จนมีลักษณะคล้ายกับฝายกั้นน้ำการล่องแก่งหินเพิงส่วนมากจะมาขึ้นฝั่งกันบริเวณแก่งวังไทร เพราะมีห้องสุขา และห้องอาบน้ำไว้บริการนักล่องแก่ง หรืออยากจะพักผ่อนนั่งรับประทาน อาหารกลางวันที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ก็ได้ เป็นอันสิ้นสุดการผจญภัยในแก่งหินเพิง

























การเตรียมตัวสำหรับการเดินป่า
ตรวจสอบความฟิตของร่างกายก่อนการจองทริปศึกษาเส้นทางล่วงหน้าเพื่อวางแผนเรื่องเวลาและการเดินทางที่เหมาะสมตระเตรียมสิ่งของที่จำเป็นถ้าคุณวางแผนที่จะค้างแรมในป่ามั่นใจว่าท่านได้จัดเสื้อผ้าที่เหมาะสมซึ่งสามารถป้องกันแมลงกัดต่อยและครีมกันแดดใส่หมวกและถุงเท้าตลอดคืนเมื่ออากาศหนาวเย็น ควรใช้รองเท้าเดินป่าหรือรองเท้าบู๊ตที่คุณภาพดีเป้สนามควรมีน้ำหนักเบา เลือกขนาดที่พอเหมาะและรู้สึกสบายเวลาแบกมั่นใจว่าได้เตรียมสิ่งของจำเป็นสำหรับการแค้มปิ้งให้พร้อมที่สุด เช่น เต็นท์ ถุงนอน ไฟฉาย เสื้อกันฝน มีด อุปกรณ์ทำครัว ยาประจำตัวและยาที่จำเป็น เชือก โน๊ตบุ๊ค และถุงพลาสติก เป็นต้น


ล่องแก่งการผจญภัยในสายน้ำ
การล่องแก่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมในวัยหนุ่มสาว หรือผู้ที่ยังมีไฟอยู่ (สูงวัยแต่ใจยังสู้)
การล่องแก่งจะล่องในฤดูฝน เมตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ต.ค.ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีกระแสน้ำเชี่ยวเหมาะแก่การล่องแก่ง ที่มีความยากถึงระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับที่ยากที่สุดของการล่องแก่ง

แก่งหินเพิง
แก่งหินเพิงเป็นแก่งในแม่น้ำใสใหญ่ มีต้นกำเนิดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะไหลผ่าน จังหวัดปราจีนบุรี นครนายก และไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง ซึ่งในฤดูฝน สายน้ำจะไหลรุนแรงเป็นที่น่าท้าทายสำหรับนักผจญภัย และด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของแก่งหินเพิงที่ประกอบด้วยแม่น้ำ จึงเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของพันธุ์พืช และสัตว์ป่านานาชนิด


การรักษาความปลอดภัย

ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ผ่านการอบรมการช่วยชีวิตทางน้ำ ยืนอยู่ประจำแก่งต่างๆ พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่นเชือกช่วยชีวิต และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ

ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน หรือตรวจสอบระดับน้ำ
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก โทร.037-312282, 037-312284 แฟกซ์ 037-312286
- อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หน่วยย่อยที่9 (ขญ.9) 081-3031811, 081-9666134

การจัดลำดับความยากการล่องแก่ง จากง่ายถึงยาก
ระดับ 1 ง่ายมาก มีแก่งเล็กน้อยที่ง่ายมากคนทั่วไปพายได้บนสายน้ำไหลเอื่อย
ระดับ 2 ธรรมดา น้ำไหลแรงขึ้น มีแก่งที่ต้องใช้เทคนิค ในระดับนี้ผู้พายต้องมีทักษะในการพายอยู่พอควร
ระดับ 3 ปานกลาง เริ่มมีแก่งน่าตื่นเต้น เทคนิคการพายสูงขึ้น มีแก่งให้ผู้พายได้ตื่นเต้นเป็นระยะๆ ในการพายต้องฝึกฝนเทคนิคการพายและเรียนรู้ถึงลักษณะสายน้ำ
ระดับ 4 ยาก มีแก่งที่ต้องใช้เทคนิคและทักษะการพาย และต้องใช้ความระมัดระวังในการล่องแก่ง
ระดับ 5 ยากมาก น้ำไหลเชี่ยว ต้องใช้เทคนิคและประสบการณ์การพายสูง และต้องระมัดระวังในการล่องแก่งเป็นพิเศษ
ระดับ 6 จัดอยู่ในระดับที่อันตราย ไม่เหมาะแก่การล่องเพราะแก่งมีลักษณะเป็นน้ำตก

ข้อควรทราบเกี่ยวกับการล่องแก่ง
1. ติดต่อ ชำระค่าธรรมเนียมเพื่อการอนุญาตเข้าเขตอุทยานฯ
2.ใช้บริการกับผู้ประกอบการล่องแก่งที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเท่านั้น (มีใบอนุญาต) และต้องทำการจอง
และยืนยันการจองล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
3. การล่องแก่งที่ปลอดภัย ต้องปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำของผู้ให้บริการ
4. สวมใส่เสื้อผ้า และรองเท้าที่เหมาะแก่การล่องแก่ง
5. ของใช้ส่วนตัวโดยเฉพาะกล้องถ่ายรูปหรือของมีค่าให้เก็บไว้ในถุงกันน้ำ
6. ควรสวมใส่เสื้อชูชีพ และหมวกนิรภัยไว้เสมอตลอดการล่องแก่งเพื่อความปลอดภัย

http://www.saksupha.net/

Friday, May 29, 2009

เที่ยว เกาะช้าง..




เกาะช้าง ใหญ่สมชื่อจริง ๆ มีพื้นที่กว่า 268,125 ไร่ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทะเลอ่าวไทยและใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากภูเก็ต เกาะช้างที่ผมพูดถึงคือ เกาะช้าง เกาะช้าง ตั้งอยู่ในเขตแหลมงอบ จ.ตราด นะครับ ไม่ใช่ เกาะช้างที่อยู่ทะเลอันดามัน จ.ระนอง (ระวังจะสับสน)


เกาะช้าง ประกอบด้วย 8 หมู่บ้าน คือ สลักเพชร สลักคอก เจ้กแบ้ บ้านด่านใหม่ คลองสน คลองพร้าว คลองนนทรี และบ้านบางเบ้า มีสถาที่ราชการ อำเภอ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล และเป็นที่ตั้งอุทยานฯหมู่เกาะช้างอีกด้วย ภายในเกาะจะเป็นสวนยางพารา และผลไม้


ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาสูงมีผาหินสลับซับซ้อน ยอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่เขาสลักเพชร มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เกิดน้ำตก ลำธารหลายสาย ชายหาดสวย มีอยู่มากมาย ตามชายฝั่งตะวันตก ที่ดังๆ หน่อยก็ได้แก่ หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ ทั้งสามหาดมี รีสอร์ทตั้งอยู่เรียงรายริมหาดมากมาย ตั้งแต่ ราคา หลังละ 200 กว่า บาท ถึง 5,000 บาท ขึ้นไป นอกจากนี้บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ยังมีเกาะเล็กๆ รายล้อม อันได้แก่ เกาะคลุ้ม เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะไม้ชี้ใหญ่ เกาะหวาย เกาะกระ เการัง เกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะกระดาด เกาะหมาก เกาะขาม ฯลฯ ส่วนใหญ่ช่วงเทศกาล เกาะเล็กเกาะน้อยเหล่านี้มัก เสนอแต่แพคเก็จทัวร์ ปัจจุบันมีทัวร์รูปแบบต่างๆ มากมายนอกจากการเล่นน้ำทะเลเที่ยวเกาะ เช่น ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ขี่ช้างท่องไพร ล่องเรือ ตกปลา ไดหมึก หรือพักโฮมสเตย์กับหมู่บ้านชาวประมง
ด้วยความสมบูรณ์แห่งแหล่งท่องเที่ยว เราจึงสามารถท่องเที่ยวเกาะช้างได้ทุกฤดูกาล
-------------------------------------------
:สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ
หาดทรายขาว
เป็นหาดที่มีระยะทางยาว 6 กม. มีบังกะโลตั้งอยู่หลายแห่ง มีถนนรอบเกาะตัดชิดหาดมากที่สุด สามารถเล่นน้ำได้ แต่บางช่วงของหาดจะต่างระดับ ลึกตื้นไม่เท่ากัน เลียบชายหาดมี โรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหาร ตั้งอยู่เรียงรายมากมาย ดูเหมือนว่าบริเวณนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าบริเวณอื่นๆ




-------------------------------------------
หาดคลองพร้าว-แหลมไชยเชษฐ์
เป็นหาดทรายที่มีความยาวมาก ติดต่อกับหาดไก่แบ้หาดทราย บริเวณนี้มีความลาดมากสามารถเล่นน้ำได้ มีบังกะโลให้เช่าพักหลายแห่ง ห้องพักที่ได้มาตรฐาน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ไม่แพ้หาดทรายขาว หาดแห่งนี้นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาเล่นกิฬาทางน้ำ กิจกรรมชาตหาดเป็นจำนวนมาก ตอนเหนือสุดของอ่าวคลองพร้าว ติดต่อกับอ่าวไชยเชษฐ์ และแหลมไชยเชษฐ์ ซึ่งมีแหลมหิน มีทัศนียภาพสวยงาม แต่ไม่สามารถเล่นน้ำได้ สำหรับแหลมไชยเชษฐ์เป็นแหล่งที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง
แนะนำรีสอร์ท




-------------------------------------------
หาดไก่แบ้
เป็นหาดทรายที่มีความลาดพอสมควร สามารถเล่นน้ำได้โดยไม่เป็นอันตราย ชายหาดมีลักษณะลาดลงทะเลทีละน้อย เกาะที่เห็นคือ เกาะจระเข้วางตัวเหนือท้องน้ำสีคราม นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคไปได้ หาดไก่เบ้ มีบังกะโล ราคาประหยัดให้เช่าหลายแห่ง เป็นที่นิยมอาบแดดของชาวต่างชาติ โรงแรงระดับหรูที่นิยมคือ ซีวิวรีสอร์ทอยู่บนเนินปลายสุดของหาด
ศูนย์กลางหาดอยู่บริเวณ ไก่เบ้บีช มีร้านค้า ร้านอาหาร เช่ารถ และเป็นที่จอดคิดรถสองแถว บริเวณใกล้เคียงหาด เราจะมองเห็น เกาะมันใน(ตามรูป) เกาะมันนอก และเกาะหยวก





-------------------------------------------
อ่าวใบลาน
เป็นหาดเงียบสงบ อยู่ระหว่างหาดไก่เบ้ และหมู่บ้านบางเบ้า เป็นหาดยาวประมาณ 12 กม. เล่นน้ำได้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาอาบแดด เล่นน้ำตากลม กันที่นี่




-------------------------------------------
หมู่บ้านประมงบางเบ้า

เป็นหมู่บ้านประมงที่น่าสนใจ บ้านพักอาศัยปลูกโดยปักเสาลงในทะเล มีสะพานเชื่อมติดต่อกันโดยตลอด ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมงดักปลาหมึก มีบังกะโลที่พักและแหล่งปะการังใต้น้ำ นักท่องเที่ยวนิยมมาทานอาหารทะเลสดๆ ราคาถูกที่นี่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดที่อยู่ปลายเกาะช้าง ซึ่งการเดินทางไปชมหมู่เกาะต่างๆ จะทำได้สะดวกและประหยัดเวลาได้มาก มีโปรแกรม แพ็คเก็จทัวร์ ไป เกาะขาม เกาะเหลายา เกาะหมาก เกาะกระ เกาะรัง ฯลฯ
แนะนำรีสอร์ท





-------------------------------------------
บ้านสลักเพชร-บ้านโรงถ่าน
เป็นสองชุมชนใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง ตั้งอยู่ติดกันทางตอนใต้ของเกาะ รอบอ่าวสลักเพชรซึ่งเป็นอ่าวใหญ่ที่สุดบนเกาะมีท่าเทียบเรือหลายแห่ง มีบังกะโล และร้านขายอาหารเล็กๆ สลับกันไป

-------------------------------------------
น้ำตกธารมะยม

อยู่หลังที่ทำการอุทยานฯ เดินผ่านสวนผลไม้เข้าไปประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางมี 3 ชั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5, 6, 7 และ 9 เคยเสด็จประพาสมายังน้ำตกนี้ นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำตกที่นี่



-------------------------------------------
น้ำตกคลองพลู

อยู่ห่างจากอ่าวคลองพร้าว 3 กม. จากนั้นต้องเดินป่าอีกประมาณ 20 นาที เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 3 ชั้น บริเวณทางเข้าน้ำตกมีร้านค้า อาหารคอยบริการนอกจากนี้ยังมี น้ำตกคลองหนึ่ง น้ำตกคีรีเพชร น้ำตกคลองนนทรี น้ำตกพราวทะเล



-------------------------------------------
เกาะต่างๆ
เกาะหวาย
อยู่ทางใต้ของเกาะช้าง ใกล้กับเกาะเหลายา ใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แนวชายหาดสวยงาม มีแนวปะการังขนาดใหญ่ และสมบูรณ์เหมาะกับการตกปลา อ่าวด้านเหนือของเกาะเป็นแหล่งที่มีแนวปะการังสมบูรณ์สูง ด้านตะวันตกของอ่าวใหญ่มีปะการังซึ่งส่วนมากเป็นปะการังก้อน ปะการังเขากวาง ปะการังแผ่น และปะการังพุ่ม นอกจากนั้นยังมีหอยมือเสืออีกด้วย บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยการเดินทาง ไปเกาะหวายมีเรือออกจากที่ท่าเรือแหลมงอบ เวลา 15.00 น. ถึงเวลา 17.00 น. เที่ยวกลับ มีเรือออกจากท่าเรือเวลา 08.00 น. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารคนละ 130 บาท
-------------------------------------------
เกาะเหลายา
อยู่ทางตอนใต้ของเกาะช้าง ประกอบด้วยเกาะเหลายาใน เกาะเหลายากลาง และเกาะเหลายานอก ใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เป็นเกาะที่มีหาดทรายยาว น้ำทะเลใส และแนวปะการังสวยงาม บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
-------------------------------------------
เกาะขาม
เสน่ห์ที่นี่อยู่ที่ ธรรมชาติหาดทราย ที่สวยงาม บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ น้ำทะเลใส ด้านหลังเกาะมีปะการังสวยงาม


-------------------------------------------
เกาะหมาก
อยู่ไม่ไกล จากเกาะขาม ถ้าไปเกาะขามพอมีเวลา ก็แวะที่นี่ได้ครับ เพราะอยู่ใกล้กัน (ตามรูปซ้ายมือ นี่ผมถ่ายจากเกาะหมาก เราจะเห็นเกาะขามอยู่ไกลๆ)


-------------------------------------------
เกาะกระดาด
ถ้ามีเวลาครับ ไปนั่งรถอีแต๋น ชมฝูงกวางครับ โชว์เฟอร์ รถอีแต๋น เล่าให้ฟังว่าที่นี่ตอนแรกอามาปล่อยไม่กี่คู่ ปัจจุบัน สภาพเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์มาก ตอนนี้ มีหลายสิบตัวแล้วครับ (ตามรูป คือ กวางนะครับ ไม่ใช่สุนัข)

































































































การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ถึง ตราด

เดินทางด้วยเครื่องบินสนามบินตราด เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2544 บนเนื้อที่ 1,200 ไร่ ต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด ทางวิ่งยาว 2,100 เมตร ความกว้าง 45 เมตร ตัวอาคารได้รับการออกแบบและก่อสร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารขาเข้า อาคารผู้โดยสารขาออก (แต่ละอาคารสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 140 ท่าน) อาคารห้องจำหน่วยบัตรโดยสาร และอาคารห้องปฏิบัติการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด หมายเลขติดต่อ แผนกสำรองที่นัง และบัตรโดยสารโทร.(039)525-767 หรือ (039)525-768(สนามบินตราด)โทร.(039)525-299 หรือ (039)525-300(สำนักงานขายตราด)หรือ http://www.bangkokair.com
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินตราด จะมีรถตู้ของสนามบินบริการส่งข้ามไปเกาะช้างหรือท่าเรือเฟอร์รี่

ทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเส้นทางหลวงหมายเลข 344 (หรือทางแยกระดับบางนา - บางปะกง) ต่อด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 344 ถึง อ.แกลง และต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจันทบุรี เพื่อมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองตราด รวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร
สัตหีบ ระยอง ถึงอ.แกลง และต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจันทบุรี เข้าสู่ตัวเมืองตราด รวมระยะทางประมาณ 390 กิโลเมตร หรืออาจใช้เส้นทางหมายเลข 36 จากพัทยาผ่านระยอง อ.แกลง รวมระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร

เส้นทางจากมอร์เตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7 ทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี) ที่เชื่อยมต่อมาจากถนนพระราม 9 - ศรีนครินทร์ ที่ขับตรงมาจนพบกับทางหลวงหมายเลข344 (บ้านบึง-แกลง) ถึงอ.แกลง และต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่าน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ตรงเข้าตัวเมืองตราด รวมระยะยามประมาณ 315 กิโลเมตร ***หากไม่ต้องการเข้าสู่ตัวเมืองตราด ท่านสามารถที่จะเลี้ยวขวา บริเวณแยกเขาสมิง(แยกแสนตุ้ง) หลังจากข้ามสะพานเวฬุแล้ว เพื่อไปยังท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล(อ่าวธรรมชาติ) ได้เลย

เดินทางด้วยรถโดยสารจากสถานีขนส่งเอกมัย ถึง สถานีขนส่งตราด

บริษัท ขนส่ง จำกัด (โทร. 02-391-2504 , 02-391-8097 , 02-391-6846)
รถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 (ก)บริษัท ขนส่ง จำกัด (99)เวลาต้นทาง 4.00 , 8.45 น. เวลาปลายทาง 9.30 , 12.00 ค่าโดยสาร 225 บาท ระยะทาง 387 กม. ระยะเวลา 6.30 ชม.
รถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 (ค)บริษัท ขนส่ง จำกัด (99)เวลาต้นทาง 7.00 , 9.00 ,11.00 , 16.00 , 17.30 , 24.00 เวลาปลายทาง 6.30 , 8.30 , 10.30 , 13.30 , 16.00 , 17,30 , 24.00 ค่าโดยสาร 188 บาท ระยะทาง 317 กม. ระยะเวลา 5.30 ชม.
บริษัท เชิดชัยทัวร์ โทร. 02-391-2237 , 02-391-4164 , 039-511-062
ธนกวีขนส่ง (ศุภรัตน์ ทัวร์) โทร.02-391-2333 , 039-511-481
โชคอนุกูล ทัวร์ โทร.02-392-7680 , 039-511-587

จากสถานีขนส่งเอกมัย ถึง แหลมงอบ
บริษัท ขนส่ง จำกัด (โทร. 02-391-2504 , 02-391-8097 , 02-391-6846)
รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 (ข) : บริษัท ขนส่ง จำกัด (999)เวลาต้นทาง 7.45 , 9.45 เวลาปลายทาง 14.00 , 16.00 ค่าโดยสาร 250 บาท ระยะทาง 331 กม. ระยะเวลา 5.15 ชม.

จากสถานีขนส่งหมอชิต ถึง สถานีขนส่งตราด
บริษัท ขนส่ง จำกัด (โทร. 02-936-2841-48,02-936-2852-66ต่อ442,311)
รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 (ข) : บริษัท ขนส่ง จำกัด (999)เวลาต้นทาง 11.00 , 22.00 เวลาปลายทาง 11.00 , 19.00 ค่าโดยสาร 248 บาท ระยะทาง 327 กม. ระยะเวลา4 ชม.
บริษัท เชิดชัยทัวร์(โทร.02-936-0199 , 039-511-062)
ธนกวีขนส่ง (ศุภรัตน์ ทัวร์) (โทร. 02-936-3388 , 039-511-481)
ท่านที่เดินทางด้วยรถโดยสารและลงที่สถานีขนส่งตราด จะต้องต่อรถสองแภว เพื่อมายังท่าเรือข้ามมาฝั่งเกาะช้าง ค่ารถโดยสารท่านละประมาณ 50 บาท

การเดินทางจากตราด ถึง เกาะช้าง

ท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล (อ่าวธรรมชาติ)
สามารถบรรทุกรถยนต์ข้ามฝั่งได้ 40-60 คัน และผู้โดยสารได้ทั้งหมด 150-300 คน
อัตราค่าโดยสารรถยนต์ 4 ล้อ ข้ามฝั่ง(ไป-กลับ) 200 บาท/คัน
อัตราค่าโดยสารของผู้โดยสารข้ามฝั่ง(ไป-กลับ) 120 บาท/ท่าน
เรือออกทุก 45 นาที ใช้เวลาตราด( อ่าวธรรมชาติ)- เกาะช้าง(อ่าวสัปปะรด) ประมาณ 30 นาที
เที่ยวแรก 6.30 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น. ของทั้ง 2 ฝั่ง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 039-597-434 081-943-5872 , 081-830-7529

ท่าเรือเฟอร์รี่เซ็นเตอร์พอยท์(แหลมงอบ)
สามารถบรรทุกรถยนต์ข้ามฝั่งได้ 40-60 คัน และผู้โดยสารได้ทั้งหมด 150-300 คน
อัตราค่าโดยสารรถยนต์ 4 ล้อ ข้ามฝั่ง(ไป-กลับ) ฟรี
อัตราค่าโดยสารของผู้โดยสารข้ามฝั่ง(ไป-กลับ) 140 บาท/ท่าน
เรือออกทุก 45 นาที ใช้เวลาตราด( อ่าวธรรมชาติ)- เกาะช้าง(อ่าวสัปปะรด) ประมาณ 45 นาที
เที่ยวแรก 6.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น. ของทั้ง 2 ฝั่ง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 039-538-196

ท่าเรืออนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง(เรือไม้)
เที่ยวแรก 7.00 น. เที่ยวสุดท้าย 17.00 น. (ทุกชั่วโมง)
ค่าโดยสารไป-กลับ 100 บาท/ท่าน
มีรถสองแถวบริการหน้าตราดสดเทศบาล

ภาพจาก internet

www:thai-tour.com

Tuesday, May 26, 2009

เที่ยว..โป่งเจ็ดคด...โป่งก้อนเส้า..โกรกอิดก..สระบุรี

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ เจ็ดคด - โป่งก้อนเส้า มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายที่ เช่น จุดชมวิวมอเครือ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 1.8 กม. เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนยภาพได้ในมุมกว้าง สามารถมองลงมาเห็นอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหุบเขาด้านล่าง ตลอดจนแนวเขาของศูนย์ฯ และแนวเขาของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้อีกด้วย...

นอกจากนี้ยังมีน้ำตกหลายแห่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เช่น น้ำตกเขาแคบ น้ำตกหินดาด น้ำตกคลองผักหวาน น้ำตกเจ็ดคด เป็นต้น และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกสามเส้นทาง รวมถึงการส่องสัตว์ในยามค่ำคืน ซึ่งต้องติดต่อเจ้าหน้าที่....

การเดินทาง โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินถึงสระบุรี แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนมิตรภาพ ผ่านอ. แก่งคอย ประมาณกิโลเมตรที่ 127 จะมีจัดกลับรถตรงหน้าเทศบาลทับกวาง พอกลับรถแล้วให้ชิดซ้ายจะมีป้ายบอกทางเข้า สวนป่าเจ็ดคดฯ แล้วเลี่ยวซ้ายวิ่งตามถนนเข้ามาอีกประมาณยี่สิบกิโลเมตร

ถ้าเป็นรถโดยสารประจำทาง นั่งรถสายกรุงเทพ -นครราชสีมา ผ่านเมืองสระบุรี ให้ลงที่หน้าวัดทับกวางหรือศูนย์โยเร แล้วข้ามสะพานลอย และนั่งมอเตอร์ไซต์เข้ามาอีกประมาณยี่สิบกิโลเมตร

*** สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด -โป่งก้อนเส้า หมู่ 5 ต. ท่ามะปราง อ. แก่งคอย จ. สระบุรี โทร. 09-237 8659 , 036-227156





ชมบรรยากาศ ..กันเอาเอง นะ..




















ห้องน้ำ..ริมอ่างเก็บน้ำ..






















ที่ กางเต็นท์.. ริมอ่างเก็บน้ำ...



บรรยากาศ ยามเช้า..หมอก ..ยามเช้า..





บ้านพัก..สวยๆๆ น่า รักเชียวแหละ..



























ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งเก้าเส้า มีน้ำตกในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงทั้งสิ้น 11 แห่ง ซึ่งมีความงดงามแตกต่างกันไป

น้ำตกที่สำคัญ เช่น

น้ำตกหินดาด เป็นน้ำตกชั้นเดียว แต่กว้าง บริเวณโดยรอบดารดาษด้วย พรรณไม้ที่สวยงาม เช่น กล้วยไม้ ลิ้นมังกร ดอกเทียนฯลฯ

น้ำตกเขาแคบ เป็นน้ำตก 7 ชั้น สูง 30 เมตร ที่สวยงามมาก ช่องที่น้ำตกลงมาเป็นช่องแคบ น้ำจึงตกลงมาเป็นสาย ทิ้งตัวลงมากระแทกก้อนหินเบื้องล่าง แตกกระจายเป็นฝอย อ่างน้ำตกใหญ่และลึกเห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต

น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก และมีสูงถึง 7 ชั้น หรือประมาณ 300 กว่าเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย เพราะเส้นทางเข้าถึงน้ำตกค่อนข้างยากลำบาก ต้องมีอุปกรณ์พร้อมและมีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็คุ้มค่าเพราะน้ำตกโกรกอีดก โดยเฉพาะชั้น 6 และ7 มีความสวยงามเป็นพิเศษ

น้ำตกโกรกฝาผนัง อยู่ใกล้ๆ กับน้ำตกโกรกอีดก มีความสูงประมาณ 20 เมตร เป็นหน้าผาชันเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความโลดโผนของกีฬาไต่หน้าผา

น้ำตกเจ็ดคด
เริ่มจาก น้ำตกเจ็ดคดเหนือ เป็นน้ำตกสูง 4 ชั้น รายล้อมด้วยป่าไผ่ ในช่วงเดือนธันวาคมตามลำห้วยจากน้ำตกจะมีดอกไม้ขึ้นตลอดเส้นทาง เดินลงมาทางทิศใต้ตามลำห้วยเจ็ดคดประมาณ 150 เมตร จะพบ น้ำตกเจ็ดคดกลาง ซึ่งเป็นน้ำตกชั้นเดียว มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ให้ลงเล่นน้ำได้ หากเดินต่อไปอีกประมาณ 150 เมตร ก็จะถึง
น้ำตกเจ็ดคดใต้ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่มีความสวยงาม สูงประมาณ 40 เมตร เป็นน้ำตกที่ตกลงมาตั้งฉากกับลำห้วยเจ็ดคด สองข้างทางของลำห้วยเจ็ดคด เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เช่น เอื้องหมายนา ดอกพนมสวรรค์ ต้นไคร้น้ำ เฟิร์นก้านดำ กระแตไต่ไม้ ฯลฯ และสัตว์นานาชนิด เช่น ปูหิน แมลงปอ และผีเสื้อหลากสีสัน น้ำตกซับป่าว่าน เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก ต้นน้ำเกิดจากอ่างเก็บน้ำของโครงการฯ เหมาะที่จะเดินท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนตก หรือช่วงที่มีน้ำมาก เพราะบริเวณเส้นทางของน้ำตกปลอดภัยจากน้ำป่าและเป็นทางราบเดินสบายแต่ละชั้นของน้ำตกมีลานกว้างให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

(คัดลอกจากแผ่นพับ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า)

ภาพ บรรยากาศ น้ำตก โกรกอิดก....































Sunday, May 17, 2009

คลองสวน ตลาด 100 ปี








































ตลาดคลองสวน เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนตลาดสองเมือง อายุกว่า 100 ปี
ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ร้านโชห่วย หรือร้านค้าขายปลีกขนาดเล็ก ๆ คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยได้ยินไม่ค่อยได้เห็น ไม่ค่อยได้ใช้บริการมากนัก เนื่องจากในปัจจุบันร้านโชห่วย ได้ปรับระบบการจัดการให้มีระบบระเบียบมากขึ้น และแปรสภาพมาเป็น ร้านสะดวกซื้อที่มีอยู่มากมายและเจอะเจอทุกหนทุกแห่งในเขตชุมชนเมือง หากร้านใดมิได้มีการปรับกลยุทธ์ในการขาย ก็จำเป็นต้องปิดกิจการไป เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อ ที่มีกลยุทธ์ทางการตลาด ที่มีประสิทธิภาพสูงในยุคสมัยปัจจุบัน

บรรยากาศเก่า ๆ ของร้านค้าเมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นบรรยากาศหนึ่งที่หลาย ๆ คนอยากจะเห็น อยากจะสัมผัสอีกสักครั้ง ด้วยมนต์เสน่ห์ของรอยยิ้มมิตรไมตรี การนำเสนอขายสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นกันเองของพ่อค้าแม่ขาย หากท่านผู้อ่านเป็นผู้หนึ่งที่ต้องการจะตามหาอดีตที่ผ่านมาแล้วหลายสิบปีีสำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 ขอแนะนำ “ ตลาดคลองสวน ” ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ที่มีบรรยากาศในอดีตที่อบอวลด้วยมนต์เสน่ห์แห่งการ ซื้อขายแลกเปลี่ยนที่นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ทั้งคนท้องถิ่น ที่ยังนิยม มาจับจ่าย ใช้สอยเลือกซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันหรือจะนั่งชิมอาหารอร่อย ๆ ชมบรรยากาศเก่า ๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม


ตลาดคลองสวน 100 ปี ตั้งอยู่ริมคลองประเวศน์บุรีรมย์ในพื้นที่ 2 จังหวัดคือ ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลคลองสวนอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ตลาดคลองสวนเป็นตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 หากย้อนกลับไปในอดีต การเดินทางโดยเรือจะสะดวกและรวดเร็วที่สุด ถ้าเดินทางจากฉะเชิงเทราเข้ากรุงเทพ ฯ จะต้องใช้เรือเมล์ขาวของนายเลิศซึ่งมีเพียงลำเดียว รับคนจากประตูน้ำท่าถั่ว (ฉะเชิงเทรา) ผ่านตลาดคลองสวน ก่อนจะแล่นเข้าสู่ประตูน้ำ (วังสระปทุม)กรุงเทพมหานคร

เมื่ออดีตตลาดคลองสวนจึงเป็นจุดแวะพักและเป็นศูนย์รวมของชุมชน จุดแลกเปลี่ยนสินค้าและเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญและสะดวกที่สุดจะเห็นได้จากสิ่งปลูกสร้าง โรงเจ วัด และสุเหร่าที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยจีน, ชาวไทยพุทธ, ชาวไทยมุสลิมจะอยู่บริเวณใกล้เคียงกันและอยู่ร่วมกันอย่างสงบ หากมีงานกุศล เช่น การขุดคลอง ทำถนน ต่างก็จะมาร่วมแรงร่วมใจพัฒนาสาธารณูปโภคร่วมกัน จุดพบปะนั่นคือร้านกาแฟ ทุกคนแม้ต่างศาสนาก็สามารถเข้ามาที่จุดนัดพบแห่งนี้ได้มาแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์การดำเนินชีวิต พูดคุยเรื่องข่าวสารเหตุบ้านการเมือง ร้านกาแฟจึงเป็นเสมือนสิ่งเสพติดที่ผู้คนในชุมชน ต้องมาพบกันเป็นประจำทุกเช้าอย่างขาดเสียมิได้ แม้ในทุกวันนี้ ร้านกาแฟก็ยังเป็นจุดนัดพบของชุมชน ปัจจุบันตลาดคลองสวน 100 ปี

โดยความดูแลของสำนักงานเทศบาล ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานเทศบาล ตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้สนับสนุนให้ ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์บ้านเรือน รวมทั้งการดำเนินชีวิตให้คงไว้ซึ่งวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และส่งเสริมให้ตลาดคลองสวน เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเรียนรู้ดูวิถีชีวิต รวมทั้ง สิ่งปลูกสร้าง ที่ยังมีกลิ่นอายในรัชสมัยรัชกาลที่ 5

การเดินทาง จากกรุงเทพ ฯ ใช้ถนนทางด่วนมอเตอร์เวย์ สังเกตป้ายชี้ “ ตลาดคลองสวน 100 ปี ” เลี้ยวซ้าย หรือถนนสายอ่อนนุช – ฉะเชิงเทราผ่านเทคโน ฯ ลาดกระบังขับตรงไปตลอด ตลาดคลองสวน 100 ปี อยู่ด้านซ้ายมือ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

• สำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284
www.tat8.com
• เทศบาลตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทราโทร.0-3859-5633, 0-3859-5716
• เทศบาลตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการโทร. 0-2739-3253, 0-2739-3329, 0-2704-1273